จุดยึด
เสน่ห์การท่องเที่ยวระดับนานาชาติของเกาสง ดึงดูดคณะสำรวจเส้นทางจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวหลายเส้นทางใหม่ เสริมจุดเด่นการท่องเที่ยวภาคใต้ของไต้หวัน
วันที่ประกาศ:2025-05-25
วันที่ปรับปรุงข้อมูล:2025-07-02
กำลังดูจำนวน 8

(หมายเหตุ: การแปลข้อมูลข่าวจัดทำโดย GPT)
กระแสการท่องเที่ยวต่างชาติในเกาสงยังคงร้อนแรง!เกาสงครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในไต้หวันติดต่อกันเป็นปีที่สอง โดยในปี 2024 มียอดผู้เยี่ยมชมทะลุ 69.23 ล้านคน ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวล้วนติดอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นเมืองเดียวในไต้หวันที่ได้รับเลือกจาก Agoda ให้เป็น “ที่พักสุดคุ้มแห่งเอเชียแปซิฟิก” และจาก Klook เป็น “จุดหมายปลายทางมาแรงระดับโลกปี 2025”เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างรวดเร็ว สำนักงานการท่องเที่ยวเมืองเกาสงได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ จัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในธีมต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมเที่ยวบินเช่าเหมาลำตรง นำเสนอเสน่ห์ครบรสของเกาสง ทั้งภูเขา ทะเล แม่น้ำ ท่าเรือ วัฒนธรรม และอาหารท้องถิ่น ตั้งแต่บริการที่เป็นมิตรกับชาวมุสลิม การตลาดผ่านสื่อวิดีโอ ไปจนถึงความสะดวกของเที่ยวบินตรงและความร่วมมือข้ามพรมแดน เกาสงกำลังก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดบทใหม่แห่งการท่องเที่ยวสากลในภาคใต้ของไต้หวัน

ผู้อำนวยการสำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสง คุณเกาซื่อหลิน (Gao Min-lin) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำนักการท่องเที่ยวได้เร่งขยายตลาดต่างประเทศ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการจัดตั้ง “ทีมส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเกาสง” เดินทางไปจัดโรดโชว์ การเจรจาแบบ B2B เข้าร่วมงานแฟร์ และเยี่ยมเยือนองค์กรท่องเที่ยวและตัวแทนอุตสาหกรรมในประเทศต่าง ๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ เวียดนาม และญี่ปุ่น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการในต่างประเทศ และสร้างผลลัพธ์ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างน่าประทับใจ ในปี 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าพักในเกาสงเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยนักท่องเที่ยวจากฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่า 30% และจากฮ่องกง มาเก๊า และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียมีอัตราเติบโตเกือบ 10% ขณะเดียวกัน สำนักการท่องเที่ยวยังผลักดันการกลับมาเปิดเส้นทางบินหรือเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทาง เช่น สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ เกาะฟู้โกว๊ก โอกินาวา โอซาก้า เชจู และเซนได
คุณเกาซื่อหลิน (Gao Min-lin) ผู้อำนวยการสำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสง เปิดเผยว่า สำนักการท่องเที่ยวได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานท่องเที่ยวไต้หวันในต่างประเทศ สายการบิน STARLUX กลุ่มโรงแรม IHG สมาคมการท่องเที่ยวเกาสง บริษัททัวร์ Washington Travel และ Tongcheng Huali รวมถึงผู้ประกอบการท้องถิ่นในเกาสง เพื่อเชิญตัวแทนจากเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มาร่วมทริปสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยว และสัมผัสเสน่ห์ของเกาสงอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านวัฒนธรรมและทรัพยากรท่องเที่ยวที่หลากหลาย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม สำนักการท่องเที่ยวร่วมกับ Washington Travel จัดโครงการเช่าเหมาลำจากเวียดนาม นำผู้โดยสารจำนวน 431 คน มาสำรวจภาคใต้ของไต้หวันเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน จุดหมายแรกคือสถานีรถไฟฟ้า MRT Formosa Boulevard ตามด้วยอ่าวแม่น้ำแห่งความรัก ศูนย์ดนตรีเกาสง สะพานท่าเรือใหญ่ และโกดังริมอ่าว จากนั้นในช่วงค่ำก็ได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่ตลาดกลางคืนหลิ่วเหอ นอกจากนี้ยังพาเที่ยวเขตศิลปะ Pier-2 พุทธสถาน Fo Guang Shan และเจดีย์มังกรเสือที่สระบัว Lotus Pond นักท่องเที่ยวเวียดนามหลายคนถึงกับกล่าวว่า “ครั้งหน้าจะพาครอบครัวมาเที่ยวเกาสงอีกแน่นอน!” ด้านคุณเหลียว หย่งเตี้ยน ประธานบริษัท Washington Travel กล่าวว่า โครงการเช่าเหมาลำไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ แต่ยังขับเคลื่อนการท่องเที่ยวระดับนานาชาติอีกด้วย และในอนาคตก็จะพัฒนาเส้นทางการบินใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาสงมากขึ้น



เพื่อเจาะตลาดการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลก สำนักงานการท่องเที่ยวเมืองเกาสงได้เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการให้ได้รับการรับรองฮาลาล ขณะนี้มีโรงแรมผ่านการรับรองแล้ว 24 แห่ง ร้านอาหาร 14 แห่ง สถานที่บริการที่เป็นมิตร 4 แห่ง และบริษัททัวร์อีก 2 แห่ง รวมพลังสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมอย่างครบวงจร นอกจากนี้ยังร่วมมือกับสมาคมการท่องเที่ยวเมืองเกาสง เชิญตัวแทนจากบริษัททัวร์อินโดนีเซีย 14 รายมาทำการสำรวจเส้นทาง ทดลองนั่งรถไฟลอยฟ้าเที่ยวอ่าวแม่น้ำแห่งความรัก และเยี่ยมชมจุดท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่น โกดัง Pier-2 ศูนย์ดนตรีเกาสง สะพานท่าเรือใหญ่ โดยเลือกใช้โรงแรมและร้านอาหารที่ได้รับการรับรองฮาลาลทั้งหมด ผู้ประกอบการจากอินโดนีเซียประทับใจกับวัฒนธรรมเมืองท่าและความเป็นมิตรต่อชาวมุสลิมของเกาสง ไม่เพียงแค่ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หม้อไฟโบราณและโรงงานท่องเที่ยว Ma Yu Shan เท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกซื้อของฝากที่ผ่านการรับรองฮาลาลได้อีกด้วย นายเฉิน หยูจือ ประธานสมาคมการท่องเที่ยวเมืองเกาสงกล่าวว่า ในอนาคตจะเดินหน้าลงลึกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง บูรณาการทรัพยากรภาครัฐและเอกชนเพื่อผลักดันเกาสงให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิม และมุ่งหวังดึงเส้นทางบินตรงจากอินโดนีเซียให้เกิดขึ้นจริง

สำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสงกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นิยมถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดีย จึงได้ออกแบบเส้นทางเที่ยวสุดปัง “เอาใจสายถ่ายรูป” ให้กับกรุ๊ปจากมาเลเซียและฟิลิปปินส์โดยเฉพาะ คณะของสายการบิน STARLUX จากมาเลเซียได้สัมผัสประสบการณ์โรงละครจำลองการบิน “i-Ride Flying Theater” นั่งรถไฟลอยฟ้าผ่าน “อุโมงค์โทโทโร่” ชมอุโมงค์ดวงดาวที่เกาะฉีจิน และช้อปปิ้งที่ Dream Mall ส่วนคณะจากฟิลิปปินส์ได้เที่ยวสระบัว วัดฝอกวงซาน และร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปทำขนมเค้กสับปะรดด้วยตนเอง ผู้ประกอบการจากทั้งสองประเทศต่างชื่นชมทิวทัศน์ท่าเรือที่เปิดโล่งของเกาสง ความก้าวหน้าของเมือง และบรรยากาศที่เป็นมิตรน่าอยู่



ผู้อำนวยการเกาซื่อหลิน (Gao Min-lin) กล่าวว่า จากผลสำรวจของเว็บไซต์ท่องเที่ยวยอดนิยม Klook พบว่าไต้หวันกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์ โดยในปี 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวจากฟิลิปปินส์ที่เดินทางมาไต้หวันเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปี 2023 ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี สำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสงจะจัดทีมเดินทางไปจัดโรดโชว์ในฟิลิปปินส์ เพื่อขยายตลาดนักท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง
สำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสงชี้แจงว่า การเชิญคณะสำรวจเส้นทางและกรุ๊ปทัวร์เช่าเหมาลำจากหลายประเทศ ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโปรแกรมทัวร์เน้นไปที่แลนด์มาร์คสำคัญในเขต Asia New Bay เช่น อ่าวแม่น้ำแห่งความรัก เขตศิลปะ Pier-2 ศูนย์ดนตรีเกาสง และสะพานท่าเรือใหญ่ ซึ่งเชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวนานาชาติ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากผู้เข้าร่วมทัวร์ และในอนาคตจะเดินหน้าส่งเสริมต่อไป เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเกาสงมากยิ่งขึ้น
กระแสการท่องเที่ยวต่างชาติในเกาสงยังคงร้อนแรง!เกาสงครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในไต้หวันติดต่อกันเป็นปีที่สอง โดยในปี 2024 มียอดผู้เยี่ยมชมทะลุ 69.23 ล้านคน ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวล้วนติดอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นเมืองเดียวในไต้หวันที่ได้รับเลือกจาก Agoda ให้เป็น “ที่พักสุดคุ้มแห่งเอเชียแปซิฟิก” และจาก Klook เป็น “จุดหมายปลายทางมาแรงระดับโลกปี 2025”เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างรวดเร็ว สำนักงานการท่องเที่ยวเมืองเกาสงได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ จัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในธีมต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมเที่ยวบินเช่าเหมาลำตรง นำเสนอเสน่ห์ครบรสของเกาสง ทั้งภูเขา ทะเล แม่น้ำ ท่าเรือ วัฒนธรรม และอาหารท้องถิ่น ตั้งแต่บริการที่เป็นมิตรกับชาวมุสลิม การตลาดผ่านสื่อวิดีโอ ไปจนถึงความสะดวกของเที่ยวบินตรงและความร่วมมือข้ามพรมแดน เกาสงกำลังก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดบทใหม่แห่งการท่องเที่ยวสากลในภาคใต้ของไต้หวัน
ผู้อำนวยการสำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสง คุณเกาซื่อหลิน (Gao Min-lin) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำนักการท่องเที่ยวได้เร่งขยายตลาดต่างประเทศ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการจัดตั้ง “ทีมส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเกาสง” เดินทางไปจัดโรดโชว์ การเจรจาแบบ B2B เข้าร่วมงานแฟร์ และเยี่ยมเยือนองค์กรท่องเที่ยวและตัวแทนอุตสาหกรรมในประเทศต่าง ๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ เวียดนาม และญี่ปุ่น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการในต่างประเทศ และสร้างผลลัพธ์ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างน่าประทับใจ ในปี 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าพักในเกาสงเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยนักท่องเที่ยวจากฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่า 30% และจากฮ่องกง มาเก๊า และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียมีอัตราเติบโตเกือบ 10% ขณะเดียวกัน สำนักการท่องเที่ยวยังผลักดันการกลับมาเปิดเส้นทางบินหรือเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทาง เช่น สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ เกาะฟู้โกว๊ก โอกินาวา โอซาก้า เชจู และเซนได
คุณเกาซื่อหลิน (Gao Min-lin) ผู้อำนวยการสำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสง เปิดเผยว่า สำนักการท่องเที่ยวได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานท่องเที่ยวไต้หวันในต่างประเทศ สายการบิน STARLUX กลุ่มโรงแรม IHG สมาคมการท่องเที่ยวเกาสง บริษัททัวร์ Washington Travel และ Tongcheng Huali รวมถึงผู้ประกอบการท้องถิ่นในเกาสง เพื่อเชิญตัวแทนจากเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มาร่วมทริปสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยว และสัมผัสเสน่ห์ของเกาสงอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านวัฒนธรรมและทรัพยากรท่องเที่ยวที่หลากหลาย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม สำนักการท่องเที่ยวร่วมกับ Washington Travel จัดโครงการเช่าเหมาลำจากเวียดนาม นำผู้โดยสารจำนวน 431 คน มาสำรวจภาคใต้ของไต้หวันเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน จุดหมายแรกคือสถานีรถไฟฟ้า MRT Formosa Boulevard ตามด้วยอ่าวแม่น้ำแห่งความรัก ศูนย์ดนตรีเกาสง สะพานท่าเรือใหญ่ และโกดังริมอ่าว จากนั้นในช่วงค่ำก็ได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่ตลาดกลางคืนหลิ่วเหอ นอกจากนี้ยังพาเที่ยวเขตศิลปะ Pier-2 พุทธสถาน Fo Guang Shan และเจดีย์มังกรเสือที่สระบัว Lotus Pond นักท่องเที่ยวเวียดนามหลายคนถึงกับกล่าวว่า “ครั้งหน้าจะพาครอบครัวมาเที่ยวเกาสงอีกแน่นอน!” ด้านคุณเหลียว หย่งเตี้ยน ประธานบริษัท Washington Travel กล่าวว่า โครงการเช่าเหมาลำไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ แต่ยังขับเคลื่อนการท่องเที่ยวระดับนานาชาติอีกด้วย และในอนาคตก็จะพัฒนาเส้นทางการบินใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาสงมากขึ้น
เพื่อเจาะตลาดการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลก สำนักงานการท่องเที่ยวเมืองเกาสงได้เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการให้ได้รับการรับรองฮาลาล ขณะนี้มีโรงแรมผ่านการรับรองแล้ว 24 แห่ง ร้านอาหาร 14 แห่ง สถานที่บริการที่เป็นมิตร 4 แห่ง และบริษัททัวร์อีก 2 แห่ง รวมพลังสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมอย่างครบวงจร นอกจากนี้ยังร่วมมือกับสมาคมการท่องเที่ยวเมืองเกาสง เชิญตัวแทนจากบริษัททัวร์อินโดนีเซีย 14 รายมาทำการสำรวจเส้นทาง ทดลองนั่งรถไฟลอยฟ้าเที่ยวอ่าวแม่น้ำแห่งความรัก และเยี่ยมชมจุดท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่น โกดัง Pier-2 ศูนย์ดนตรีเกาสง สะพานท่าเรือใหญ่ โดยเลือกใช้โรงแรมและร้านอาหารที่ได้รับการรับรองฮาลาลทั้งหมด ผู้ประกอบการจากอินโดนีเซียประทับใจกับวัฒนธรรมเมืองท่าและความเป็นมิตรต่อชาวมุสลิมของเกาสง ไม่เพียงแค่ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หม้อไฟโบราณและโรงงานท่องเที่ยว Ma Yu Shan เท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกซื้อของฝากที่ผ่านการรับรองฮาลาลได้อีกด้วย นายเฉิน หยูจือ ประธานสมาคมการท่องเที่ยวเมืองเกาสงกล่าวว่า ในอนาคตจะเดินหน้าลงลึกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง บูรณาการทรัพยากรภาครัฐและเอกชนเพื่อผลักดันเกาสงให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิม และมุ่งหวังดึงเส้นทางบินตรงจากอินโดนีเซียให้เกิดขึ้นจริง
สำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสงกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นิยมถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดีย จึงได้ออกแบบเส้นทางเที่ยวสุดปัง “เอาใจสายถ่ายรูป” ให้กับกรุ๊ปจากมาเลเซียและฟิลิปปินส์โดยเฉพาะ คณะของสายการบิน STARLUX จากมาเลเซียได้สัมผัสประสบการณ์โรงละครจำลองการบิน “i-Ride Flying Theater” นั่งรถไฟลอยฟ้าผ่าน “อุโมงค์โทโทโร่” ชมอุโมงค์ดวงดาวที่เกาะฉีจิน และช้อปปิ้งที่ Dream Mall ส่วนคณะจากฟิลิปปินส์ได้เที่ยวสระบัว วัดฝอกวงซาน และร่วมกิจกรรมเวิร์กชอปทำขนมเค้กสับปะรดด้วยตนเอง ผู้ประกอบการจากทั้งสองประเทศต่างชื่นชมทิวทัศน์ท่าเรือที่เปิดโล่งของเกาสง ความก้าวหน้าของเมือง และบรรยากาศที่เป็นมิตรน่าอยู่
ผู้อำนวยการเกาซื่อหลิน (Gao Min-lin) กล่าวว่า จากผลสำรวจของเว็บไซต์ท่องเที่ยวยอดนิยม Klook พบว่าไต้หวันกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์ โดยในปี 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวจากฟิลิปปินส์ที่เดินทางมาไต้หวันเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปี 2023 ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี สำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสงจะจัดทีมเดินทางไปจัดโรดโชว์ในฟิลิปปินส์ เพื่อขยายตลาดนักท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง
สำนักการท่องเที่ยวเมืองเกาสงชี้แจงว่า การเชิญคณะสำรวจเส้นทางและกรุ๊ปทัวร์เช่าเหมาลำจากหลายประเทศ ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโปรแกรมทัวร์เน้นไปที่แลนด์มาร์คสำคัญในเขต Asia New Bay เช่น อ่าวแม่น้ำแห่งความรัก เขตศิลปะ Pier-2 ศูนย์ดนตรีเกาสง และสะพานท่าเรือใหญ่ ซึ่งเชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวนานาชาติ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากผู้เข้าร่วมทัวร์ และในอนาคตจะเดินหน้าส่งเสริมต่อไป เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเกาสงมากยิ่งขึ้น
รูปถ่ายที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด